อัปเดตล่าสุดเมื่อ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2021
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2021
เมื่อคุณซื้อสินค้าจากผู้ขายที่ยอมรับ PayPal คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal ซึ่งมีข้อกําหนดและเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในเอกสารนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของ สัญญาสําหรับผู้ใช้บริการ กรณีที่สามารถใช้ได้ โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal จะให้สิทธิ์คุณในการได้รับเงินคืนจากราคาซื้อสินค้าเต็มจำนวนบวกค่าจัดส่งเดิมที่คุณได้ชำระไว้ ถ้ามี PayPal ใช้ดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียวในการตัดสินว่าข้อเรียกร้องของคุณมีสิทธิ์ตามโปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal หรือไม่ โดยพิจารณาจากข้อกำหนดในการได้รับสิทธิ์ ข้อมูลหรือเอกสารใดๆ ที่ให้ไว้ระหว่างกระบวนการระงับข้อพิพาท หรือข้อมูลอื่นใดที่ PayPal เห็นว่าเกี่ยวข้องและเหมาะสมภายใต้สถานการณ์ต่างๆ การตัดสินใจเดิมของ PayPal ถือเป็นที่สิ้นสุด แต่คุณอาจสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินต่อ PayPal ได้ถ้าคุณมีข้อมูลใหม่หรือที่น่าสนใจซึ่งไม่มีอยู่ในขณะที่มีการพิจารณาครั้งแรกหรือถ้าคุณเชื่อว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในกระบวนการตัดสินใจ
ข้อสำคัญ: คุณอาจจำเป็นต้องคืนสินค้าให้กับผู้ขายหรือบุคคลอื่นที่เราระบุเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการยุติข้อเรียกร้องของคุณ โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal ไม่ได้ให้สิทธิ์คุณในการได้รับเงินคืนสำหรับค่าส่งคืนสินค้าที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ
โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal อาจมีผลบังคับใช้เมื่อคุณประสบปัญหาใดๆ เหล่านี้กับการทำรายการ:
ถ้าคุณเชื่อว่าการทำรายการที่ดำเนินการผ่านบัญชี PayPal ของคุณไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ ข้อเรียกร้องประเภทนี้แตกต่างจากโปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อ และมีการอธิบายไว้ด้านล่างภายใต้ความรับผิดต่อการทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อเรียกร้องของคุณจะไม่มีสิทธิ์ได้รับการคืนเงินภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal สำหรับข้อเรียกร้องกรณีไม่ได้รับสินค้า ถ้า:
ถ้าผู้ขายแสดงหลักฐานว่าได้มีการจัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่ของคุณแล้ว PayPal อาจตัดสินให้ผู้ขายเป็นฝ่ายชนะข้อเรียกร้องกรณีไม่ได้รับสินค้า แม้คุณจะอ้างว่าไม่ได้รับสินค้านั้นก็ตาม
สินค้าอาจถูกพิจารณาว่าเป็นสินค้าที่แตกต่างจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ถ้า:
สินค้าไม่สามารถพิจารณาว่าเป็นสินค้าแตกต่างจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ถ้า:
สินค้าหรือการทำรายการต่อไปนี้ไม่มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal:
เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองภายใต้นโยบายการคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal คุณต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดต่อไปนี้:
ถ้าคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการกับผู้ขายได้โดยตรง คุณต้องปฏิบัติตามกระบวนการระงับข้อพิพาทออนไลน์ของเราผ่านศูนย์ร้องเรียนกรณีซื้อขายเพื่อยื่นข้อเรียกร้องภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของเรา นอกจากนี้ คุณยังสามารถยื่นข้อเรียกร้อง (ขั้นตอนที่ 2 ด้านล่าง) ได้โดยโทรหาเราและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนที่คุณต้องปฏิบัติตามมีการอธิบายไว้ด้านล่าง และถ้าคุณไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ ข้อเรียกร้องของคุณอาจถูกปฏิเสธ:
ขั้นตอนที่ 1: เปิดข้อพิพาทภายใน 180 วันนับจากวันที่คุณทำการชำระเงิน ซึ่งอาจช่วยให้คุณสามารถเริ่มการสนทนาโดยตรงกับผู้ขายเกี่ยวกับปัญหาการทำรายการของคุณที่อาจช่วยระงับข้อพิพาทได้ ถ้าคุณไม่สามารถระงับข้อพิพาทกับผู้ขายได้โดยตรง ให้ดำเนินการขั้นตอนที่ 2 เราจะพักเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการในบัญชี PayPal ของผู้ขายจนกว่าข้อพิพาทจะยุติหรือปิดลงแล้ว
ขั้นตอนที่ 2: ยกระดับข้อพิพาทเป็นข้อเรียกร้องเพื่อขอรับเงินคืน โดยดำเนินการภายใน 20 วันหลังจากเปิดข้อพิพาท ในกรณีที่คุณและผู้ขายไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ หรือไม่เช่นนั้นเราจะปิดข้อพิพาทโดยอัตโนมัติ คุณสามารถยกระดับข้อพิพาทเป็นข้อเรียกร้องเพื่อขอเงินคืนได้โดยผ่านศูนย์ร้องเรียนกรณีซื้อขาย ผู้ขายหรือ PayPal สามารถยกระดับข้อพิพาทเป็นข้อเรียกร้องได้เช่นกันในขั้นตอนนี้ PayPal อาจขอให้คุณรออย่างน้อย 7 วันนับจากวันที่ทำรายการก่อนจะยกระดับข้อพิพาท
ขั้นตอนที่ 3: ตอบกลับคำขอเอกสารหรือข้อมูลอื่นๆ ของ PayPal หลังจากที่คุณ ผู้ขาย หรือ PayPal ยกระดับข้อพิพาทของคุณเป็นข้อเรียกร้องเพื่อขอรับเงินคืน PayPal อาจขอให้คุณส่งใบเสร็จรับเงิน การประเมินโดยบุคคลที่สาม หลักฐานการแจ้งความกับตำรวจ หรือเอกสารอื่นๆ ที่ PayPal ระบุ คุณจะต้องตอบกลับคำขอเหล่านี้ภายในเวลาที่กำหนดไว้ในจดหมายโต้ตอบระหว่างคุณกับเรา
ขั้นตอนที่ 4: ปฏิบัติตามคำขอจัดส่งสินค้าของ PayPal ภายในเวลาที่กำหนด ถ้าคุณยื่นข้อเรียกร้องกรณีสินค้าแตกต่างจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจน PayPal อาจขอให้คุณจัดส่งสินค้าคืนให้กับผู้ขาย PayPal หรือบุคคลที่สาม (ซึ่ง PayPal จะเป็นผู้ระบุไว้) โดยคุณเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งส่งหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้ว
หลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้ว หมายถึง:
สำหรับการทำรายการที่มีมูลค่ารวมไม่ถึง 750 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่าเกณฑ์มาตรฐานสกุลเงินในตารางด้านล่าง) การยืนยันที่สามารถเรียกดูได้ออนไลน์ซึ่งระบุที่อยู่นำส่งที่แสดงชื่อเมืองหรือรหัสไปรษณีย์ วันที่นำส่ง และตัวตนของบริษัทส่งสินค้าที่คุณใช้เป็นอย่างน้อย
สำหรับการทำรายการที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 750 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่าเกณฑ์มาตรฐานสกุลเงินในตารางด้านล่าง) หรือมากกว่า คุณต้องแสดงหลักฐานการนำส่งที่มีการยืนยันด้วยลายเซ็น (ยกเว้นในกรณีที่ผู้ซื้อมีบัญชี PayPal ที่ลงทะเบียนในแอลเบเนีย, อันดอร์รา, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โครเอเชีย, ไอซ์แลนด์, อิสราเอล หรือยูเครน ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าวไม่มีผลบังคับใช้) ถ้าการทำรายการอยู่ในสกุลเงินที่ไม่ได้ระบุไว้ในตาราง จะต้องมีการยืนยันด้วยลายเซ็นเมื่อการชำระเงินเกินกว่ามูลค่าที่เทียบเท่ากับ 750 ดอลลาร์สหรัฐตามอัตราแลกเปลี่ยนของ PayPal ที่มีผลบังคับใช้ ณ เวลาที่ทำรายการ
เกณฑ์มาตรฐานการยืนยันด้วยลายเซ็นตามสกุลเงิน | |||
---|---|---|---|
สกุลเงิน | มูลค่าการทำรายการ | สกุลเงิน | มูลค่าการทำรายการ |
ดอลลาร์ออสเตรเลีย: | 850 AUD | ดอลลาร์นิวซีแลนด์: | 950 NZD |
รีลบราซิล: | 1,750 BRL | โครนนอร์เวย์: | 4,600 NOK |
ดอลลาร์แคนาดา: | 850 CAD | เปโซฟิลิปปินส์: | 34,000 PHP |
โครูนาเช็ก: | 15,000 CZK | ซวอตีโปแลนด์: | 2,300 PLN |
โครนเดนมาร์ก: | 4,100 DKK | รูเบิลรัสเซีย: | 48,000 RUB |
ยูโร: | 550 EUR | ดอลลาร์สิงคโปร์: | 950 SGD |
ดอลลาร์ฮ่องกง: | 6,000 HKD | โครนาสวีเดน: | 4,950 SEK |
ฟอรินต์ฮังการี: | 170,000 HUF | ฟรังก์สวิส: | 700 CHF |
เชเกิลอิสราเอล: | 2,700 ILS | ดอลลาร์ไต้หวัน: | 23,000 TWD |
เยนญี่ปุ่น: | 77,000 JPY | บาทไทย: | 24,500 THB |
ริงกิตมาเลเซีย: | 3,100 MYR | ปอนด์สเตอร์ลิงสหราชอาณาจักร: | 450 GBP |
เปโซเม็กซิโก: | 10,000 MXN | ดอลลาร์สหรัฐ: | 750 USD |
ขั้นตอนที่ 5: PayPal จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย(รวมถึงการปิดข้อพิพาทหรือข้อเรียกร้องใดๆ โดยอัตโนมัติ) โดยใช้ดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียวตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการมีสิทธิ์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ ที่ให้ไว้ระหว่างกระบวนการระงับข้อพิพาทออนไลน์ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ PayPal เห็นว่าเกี่ยวข้องและเหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ
โปรดทราบว่าเมื่อคุณซื้อสินค้าดิจิทัลแบบ Micropaymentจะมีกฎพิเศษที่มีผลบังคับใช้ ซึ่งรวมถึงเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งเราอาจยกเลิกการทำรายการโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเรา เราอาจจำกัดจำนวนการตีคืนการชำระเงินอัตโนมัติที่คุณได้รับประโยชน์ แต่แม้ว่าจะเป็นกรณีนี้ คุณก็ยังสามารถปฏิบัติตามกระบวนการระงับข้อพิพาทมาตรฐานของ PayPal ตามที่อธิบายไว้ข้างต้นได้
ในกรณีที่ PayPal ตัดสินในขั้นสุดท้ายให้ผู้ซื้อหรือผู้ขายเป็นฝ่ายชนะ แต่ละฝ่ายต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของ PayPal
ถ้า PayPal ตัดสินให้ผู้ซื้อเป็นฝ่ายชนะ PayPal จะจ่ายเงินคืนให้ผู้ซื้อเท่ากับค่าซื้อสินค้าเต็มจำนวน บวกค่าจัดส่งเดิม
ถ้าผู้ขายเป็นฝ่ายแพ้ในข้อเรียกร้อง ผู้ขายจะไม่ได้รับการคืนเงินค่าธรรมเนียม PayPal ที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการนั้น
ถ้าผู้ขายเป็นฝ่ายแพ้ในข้อเรียกร้องกรณีสินค้าแตกต่างจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจนเนื่องจากสินค้าที่ขายเป็นของปลอม ผู้ขายจะต้องคืนเงินเต็มจำนวนให้ผู้ซื้อและคุณจะไม่ได้รับสินค้าคืน
ถ้าคุณใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเป็นวิธีการชำระเงินสำหรับการทำรายการผ่านบัญชี PayPal ของคุณ และคุณไม่พอใจกับการทำรายการ คุณอาจมีสิทธิ์ยื่นข้อพิพาทเกี่ยวกับการทำรายการกับผู้ออกบัตรของคุณ สิทธิ์ในการปฏิเสธชำระเงินผ่านบัตรที่มีผลบังคับใช้อาจกว้างเกินกว่าสิทธิ์ที่คุณใช้ได้ภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal เช่น ถ้าคุณยื่นข้อพิพาทเกี่ยวกับการทำรายการกับผู้ออกบัตรของคุณ คุณอาจสามารถขอรับเงินที่คุณชำระให้แก่สินค้าที่ไม่น่าพึงพอใจได้ แม้ลูกค้าจะไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้ข้อเรียกร้องกรณีสินค้าแตกต่างจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจนกับเราก็ตาม
คุณต้องเลือกว่าจะยื่นข้อพิพาทกับ PayPal ภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อ หรือยื่นข้อพิพาทกับผู้ออกบัตรของคุณ ทั้งนี้คุณไม่สามารถดำเนินการทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันหรือขอเงินคืนสองครั้งได้ ถ้าคุณยื่นข้อพิพาท/ข้อเรียกร้องกับเรา และคุณยังยื่นข้อพิพาทสำหรับการทำรายการเดียวกันกับผู้ออกบัตรของคุณ เราจะปิดข้อพิพาท/ข้อเรียกร้องของคุณกับเรา การดำเนินการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการระงับข้อพิพาทกับผู้ออกบัตรของคุณ นอกจากนี้ ถ้าคุณยื่นข้อพิพาทกับผู้ออกบัตรของคุณ คุณจะไม่สามารถยื่นข้อพิพาท/ข้อเรียกร้องกับเราในภายหลังได้
ถ้าคุณเลือกที่จะยื่นข้อพิพาทการทำรายการกับ PayPal และเราตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการตามที่คุณขอ คุณสามารถยื่นข้อพิพาทกับผู้ออกบัตรของคุณได้ในภายหลัง ถ้า PayPal ไม่ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของคุณจนกระทั่งเลยกำหนดเวลาในการยื่นข้อพิพาทกับผู้ออกบัตรแล้ว และเนื่องจากความล่าช้าทำให้คุณได้รับเงินคืนน้อยกว่ายอดเต็มของจำนวนเงินที่คุณควรมีสิทธิ์ได้รับจากผู้ออกบัตร เราจะคืนเงินส่วนต่างให้แก่คุณ (หักลบด้วยจำนวนเงินใดๆ ที่คุณได้รับแล้วจากผู้ขายหรือผู้ออกบัตรของคุณ) ก่อนจะติดต่อกับผู้ออกบัตรของคุณ หรือยื่นข้อพิพาทกับ PayPal คุณควรติดต่อผู้ขายเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาของคุณก่อน โดยให้เป็นไปตามนโยบายการคืนสินค้าของผู้ขาย