โปรแกรมคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal
ปรับปรุงครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2022
การมีสิทธิ์คืออะไร
ถ้าคุณขายสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ซื้อ คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้นโยบายคุ้มครองผู้ขายของ PayPal ซึ่งมีข้อกําหนดและเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในเอกสารนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาสําหรับผู้ใช้บริการ โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal จะให้สิทธิ์คุณในการรักษาจำนวนเงินที่ซื้อไว้เต็มจำนวนเมื่อมีผลบังคับใช้ PayPal เป็นผู้ตัดสินว่าข้อเรียกร้องของคุณมีสิทธิ์ตามโปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal หรือไม่ PayPal จะตัดสินใจโดยใช้ดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียวตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการมีสิทธิ์ ข้อมูลหรือเอกสารใดๆ ที่ให้ไว้ระหว่างกระบวนการระงับข้อพิพาท หรือข้อมูลอื่นใดที่ PayPal เห็นว่าเกี่ยวข้องและเหมาะสมภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ไม่มีการจํากัดจํานวนการชำระเงินที่มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal เมื่อเข้าดูหน้ารายละเอียดการทํารายการในบัญชี PayPal ของคุณ คุณสามารถระบุการทํารายการที่อาจมีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองภายใต้โปรแกรมนี้
โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal อาจมีผลบังคับใช้เมื่อผู้ซื้ออ้างว่า:
- ผู้ซื้อไม่ได้อนุญาตหรือได้รับประโยชน์จากเงินที่ส่งจากบัญชี PayPal ของตน (เรียกว่า "การทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาต") และการทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าวเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่จัดให้มีขึ้นโดย PayPal หรือ
- ผู้ซื้อไม่ได้รับสินค้าจากคุณ (เรียกว่าข้อเรียกร้องกรณี "ไม่ได้รับสินค้า")
นอกจากนี้ โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal ยังอาจมีผลบังคับใช้เมื่อการทำรายการถูกยกเลิกเนื่องจากผู้ซื้อปฏิเสธการชำระเงินเป็นผลสำเร็จ หรือเมื่อการชำระเงินผ่านธนาคารถูกยกเลิกโดยธนาคารของผู้ซื้อ
ส่วนนี้อธิบายเกี่ยวกับโปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal ตามที่มีผลบังคับใช้กับคุณ แต่คุณควรทำความคุ้นเคยกับผลกระทบของกระบวนการต่างๆ ของนโยบายการคุ้มครองผู้ซื้อที่มีต่อผู้ขายด้วยเช่นกัน
ข้อกำหนดขั้นพื้นฐาน
เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal คุณจะต้องมีคุณสมบัติครบตามข้อกำหนดขั้นพื้นฐานที่ระบุไว้ด้านล่าง รวมถึงข้อกำหนดเพิ่มเติมใดๆ ที่มีผลบังคับใช้:
- คุณได้ส่งหลักฐานการจัดส่งสินค้าหรือหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้วมาให้เรา
- ในกรณีที่มีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณต้องแสดงหลักฐานการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้องหรือหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้วเพื่อแสดงว่าได้มีการจัดส่งหรือจัดหาสินค้าให้แก่ผู้ซื้อแล้วภายในเวลาไม่เกิน 2 วันนับตั้งแต่วันที่ PayPal ได้แจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับข้อพิพาทหรือการตีคืนการชำระเงิน ตัวอย่างเช่น ถ้า PayPal แจ้งให้คุณทราบถึงข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาตในวันที่ 1 กันยายน หลักฐานการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้องจะต้องระบุว่าได้มีการจัดส่งสินค้าให้แก่ผู้ซื้อที่ไม่เกินวันที่ 3 กันยายนเพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal
- สินค้าต้องเป็นสินค้าที่จับต้องได้ ยกเว้นสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดเพิ่มเติมของสินค้าที่จับต้องไม่ได้
- คุณต้องจัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่สำหรับจัดส่งที่ระบุอยู่ในหน้ารายละเอียดการทำรายการในบัญชี PayPal ของคุณสำหรับการทำรายการ ถ้าในตอนแรกคุณได้จัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่สำหรับจัดส่งของผู้รับในหน้ารายละเอียดการทำรายการ แต่ในภายหลังสินค้าถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังที่อยู่อื่น คุณจะไม่ได้รับความคุ้มครองภายใต้นโยบายคุ้มครองผู้ขายของ PayPal ดังนั้น เราไม่แนะนำให้ใช้บริการจัดส่งที่ผู้ซื้อเป็นผู้กำหนด เพื่อให้คุณสามารถแสดงหลักฐานการจัดส่งสินค้าและหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้วได้อย่างถูกต้อง
- คุณต้องตอบรับคำขอเอกสารและข้อมูลอื่นๆ ของ PayPal ในเวลาที่เหมาะสมตามที่ร้องขอไว้ในอีเมลติดต่อระหว่างเรากับคุณ หรือที่ติดต่อกับคุณผ่านศูนย์ร้องเรียนกรณีซื้อขาย ถ้าคุณไม่ตอบรับคำขอเอกสารและข้อมูลอื่นๆ ของ PayPal ภายในเวลาที่ร้องขอ คุณอาจไม่มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้นโยบายคุ้มครองผู้ขายของ PayPal
- ถ้าการขายสินค้าเกี่ยวข้องกับสินค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้าหรือสินค้าสั่งทำ คุณจะต้องจัดส่งสินค้าภายในระยะเวลาที่คุณระบุไว้ในรายการ มิฉะนั้น เราขอแนะนำให้คุณจัดส่งสินค้าทั้งหมดภายใน 7 วันหลังจากได้รับการชำระเงิน
- คุณต้องยอมรับชำระเงินจากบัญชี PayPal สำหรับการซื้อสินค้าดังกล่าว (ยกเว้นการชำระเงินบางส่วน และ/หรือการชำระเงินแบบผ่อนชำระ)
- ในหน้ารายละเอียดการทำรายการ การชำระเงินจะต้องระบุว่า "มีสิทธิ์" หรือ "มีสิทธิ์บางส่วน" ภายใต้นโยบายคุ้มครองผู้ขายของ PayPal สำหรับข้อเรียกร้องกรณีการทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ "มีสิทธิ์" สำหรับข้อเรียกร้องกรณีไม่ได้รับสินค้า
ข้อกำหนดเพิ่มเติมกรณีไม่ได้รับสินค้า
เพื่อให้มีสิทธิ์ภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal สำหรับข้อเรียกร้องในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ได้รับสินค้า คุณต้องมีคุณสมบัติครบตามข้อกำหนดพื้นฐานและข้อกำหนดเพิ่มเติมตามที่ระบุไว้ด้านล่าง:
- เมื่อผู้ซื้อยื่นปฏิเสธชำระเงินกับผู้ออกบัตรสำหรับการทำรายการชำระเงินผ่านบัตร จะต้องทำเครื่องหมายกำกับการชำระเงินนั้นว่า "มีสิทธิ์" หรือ "มีสิทธิ์บางส่วน" ตามนโยบายคุ้มครองผู้ขายของ PayPal ในหน้ารายละเอียดการทำรายการ
- คุณต้องแจ้งหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้วตามที่อธิบายไว้ด้านล่าง
ข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าที่จับต้องไม่ได้
การขายสินค้าและบริการที่จับต้องไม่ได้จะมีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้นโยบายคุ้มครองผู้ขายก็ต่อเมื่อการขายเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นพื้นฐานและข้อกำหนดเพิ่มเติมต่อไปนี้:
- ข้อกำหนดในการเชื่อมโยงระบบ
- ในกรณีที่คุณได้เชื่อมโยงระบบกับผลิตภัณฑ์ PayPal Checkout ไว้ คุณจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเวอร์ชันปัจจุบัน ถ้าคุณยอมรับการชำระเงินโดยตรงผ่านเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ที่ปรับให้เหมาะสำหรับมือถือ หรือ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ส่งข้อมูลเซสชันไปยัง PayPal เมื่อชำระเงิน ถ้าคุณเชื่อมโยงระบบกับ PayPal ผ่านบุคคลที่สาม หรือถ้าคุณมีการเชื่อมโยงระบบกับแอปเดิมไว้
- อาจมีข้อกำหนดอื่นๆ ในการเชื่อมโยงระบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจของคุณ เราจะแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับข้อกำหนดเหล่านั้น ถ้าจำเป็น
- PayPal ได้ระบุว่าการทำรายการสินค้าที่จับต้องไม่ได้นั้น "มีสิทธิ์" ในหน้ารายละเอียดการทำรายการ หรือแจ้งให้คุณทราบถึงการมีสิทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษร
- จัดส่งสินค้าแล้ว และแสดงหลักฐานการจัดส่งสินค้าหรือหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้วสำหรับสินค้าที่จับต้องไม่ได้
การสร้างหลักฐานการจัดส่งสินค้าหรือหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้ว
สินค้าที่จับต้องได้ สิ่งที่ต้องใช้เป็นหลักฐานการจัดส่งสินค้าหรือหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้วสำหรับสินค้าที่จับต้องได้มีดังต่อไปนี้: | |
หลักฐานการจัดส่งสินค้า | หลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้ว |
เอกสารออนไลน์หรือฉบับกระดาษจากบริษัทส่งสินค้าซึ่งแสดง:
| เอกสารออนไลน์หรือฉบับกระดาษจากบริษัทส่งสินค้าซึ่งแสดง:
สำคัญ: บริษัทขนส่งที่คุณเลือกและตัวเลือกในการจัดส่งสินค้ากับบริษัทขนส่งดังกล่าว อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถของคุณในการปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักฐานที่แสดงว่าผู้รับได้รับสินค้าแล้ว โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทขนส่งของคุณสามารถระบุสถานะ ‘ส่งแล้ว’ ในที่อยู่ที่ถูกต้อง มิฉะนั้นข้อเรียกร้องตามนโยบายการคุ้มครองผู้ขายของคุณอาจถูกปฏิเสธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ |
เกณฑ์มาตรฐานการยืนยันด้วยลายเซ็นตามสกุลเงิน
สกุลเงิน | มูลค่าการทำรายการ | สกุลเงิน | มูลค่าการทำรายการ |
ดอลลาร์ออสเตรเลีย: | 850 AUD | ดอลลาร์นิวซีแลนด์: | 950 NZD |
รีลบราซิล: | 1,750 BRL | โครนนอร์เวย์: | 4,600 NOK |
ดอลลาร์แคนาดา: | 850 CAD | เปโซฟิลิปปินส์: | 34,000 PHP |
โครูนาเช็ก: | 15,000 CZK | ซวอตีโปแลนด์: | 2,300 PLN |
โครนเดนมาร์ก: | 4,100 DKK | รูเบิลรัสเซีย: | 27,000 RUB |
ยูโร: | 550 EUR | ดอลลาร์สิงคโปร์: | 950 SGD |
ดอลลาร์ฮ่องกง: | 6,000 HKD | โครนาสวีเดน: | 4,950 SEK |
ฟอรินต์ฮังการี: | 170,000 HUF | ฟรังก์สวิส: | 700 CHF |
เชเกิลอิสราเอล: | 2,700 ILS | ดอลลาร์ไต้หวัน: | 23,000 TWD |
เยนญี่ปุ่น: | 77,000 JPY | บาทไทย: | 24,500 THB |
ริงกิตมาเลเซีย: | 2,500 MYR | ปอนด์สเตอร์ลิงสหราชอาณาจักร: | 450 GBP |
เปโซเม็กซิโก: | 10,000 MXN | ดอลลาร์สหรัฐ: | 750 USD |
สินค้าและการทำรายการที่ไม่มีสิทธิ์
สินค้าหรือการทำรายการต่อไปนี้ไม่มีสิทธิ์ได้รับความความคุ้มครองภายใต้โปรแกรมคุ้มครองผู้ขายของ PayPal:
- อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสินทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
- ยานพาหนะ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะยานยนต์ รถจักรยานยนต์ ร้านบ้านเคลื่อนที่ เครื่องบินหรือเรือ ยกเว้นยานพาหนะขนาดเล็กเพื่อการพกพาส่วนบุคคลที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสันทนาการ เช่น จักรยานและโฮเวอร์บอร์ดมีล้อ
- ธุรกิจ (การซื้อหรือการลงทุนในธุรกิจ)
- เครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ใช้ในการผลิต
- การชำระเงินที่เทียบเท่ากับเงินสด รวมถึงสินค้าแทนเงินสด เช่น บัตรของขวัญและบัตรเติมเงิน
- การชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับทองคำ (ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบที่จับต้องได้หรือในรูปแบบของการซื้อขายแลกเปลี่ยน)
- ผลิตภัณฑ์ทางการเงินหรือการลงทุนทุกประเภท
- การพนัน การเล่นเกม และ/หรือกิจกรรมอื่นใดที่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและของรางวัล
- ศิลปะ วัตถุโบราณ หรือของสะสมในรูปแบบที่จับต้องได้หรือแบบดิจิทัล ตามที่แสดงด้วยโทเค็นที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ (NFT) ที่มีจํานวนเงินการทํารายการมากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่นตามที่คํานวณ ณ เวลาที่ทํารายการ
- การบริจาค รวมถึงการชำระเงินที่ได้รับจากการระดมทุนหรือการให้กู้ยืมเงิน
- การชำระเงินให้กับหน่วยงานที่ดำเนินการโดยภาครัฐ (ยกเว้นรัฐวิสาหกิจ) หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลภายนอกที่ดำเนินการเรียกเก็บเงินในนามของหน่วยงานที่ดำเนินการโดยภาครัฐหรือหน่วยงานของรัฐ
- การชำระเงินไปยังบริการชำระค่าสินค้าและบริการใดๆ
- สินค้าที่ผู้ซื้ออ้าง (ทั้งกับเราหรือผู้ออกบัตรของผู้ซื้อ) ว่าสินค้าที่คุณจัดส่งให้นั้นไม่ใช่สินค้าที่ได้สั่งซื้อ (เรียกว่าข้อเรียกร้องกรณี "สินค้าแตกต่างจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจน")
- สินค้าที่จับต้องได้ซึ่งมีการนำส่งด้วยตนเอง รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินซึ่งดำเนินการที่หน้าร้านของคุณ เว้นแต่ผู้ซื้อได้ชำระเงินสำหรับการทำรายการด้วยตนเองโดยใช้รหัส QR ของสินค้าและบริการของ PayPal
- สิ่งใดก็ตามที่ PayPal กำหนดโดยใช้ดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียวว่าเป็นสิ่งต้องห้ามตามนโยบายการใช้บริการของ PayPal แม้ว่าการทำรายการดังกล่าวจะได้รับการระบุไว้ในตอนแรกว่า "มีสิทธิ์" หรือ "มีสิทธิ์บางส่วน" ในหน้ารายละเอียดการทำรายการก็ตาม
- การชำระเงินโดยใช้บริการชำระเงินให้ผู้รับหลายคนของ PayPal
- การชำระค่าใช้จ่ายส่วนตัว รวมถึงการชำระเงินที่ส่งโดยใช้ฟังก์ชันเพื่อนและครอบครัวของ PayPal
- การชำระเงินที่ไม่ได้ดำเนินการผ่านบัญชี PayPal ของผู้ซื้อ เว้นแต่ว่าคุณได้รับการทำรายการชำระเงินโดยไม่เข้าสู่ระบบของ PayPal และบัญชีธุรกิจของคุณได้รับการลงทะเบียนในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา บราซิล หรือเม็กซิโก
- สินค้าที่ส่งไปหลังจาก PayPal แจ้งไม่ให้คุณปล่อยสินค้า
- ตั๋วเดินทางที่จำหน่ายโดยผู้ให้บริการด้านการเดินทางซึ่ง (1) ผู้ซื้ออ้าง (ทั้งกับเราหรือสถาบันการเงิน) ว่าเป็นการทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาต และ (2) มีการยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวเกินกว่า 24 ชั่วโมงก่อนวันที่เดินทาง